พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ป. นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าตรวจค้นสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี เพื่อจับกุม นายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี ตำแหน่งนายช่างสำรวจชำนาญงาน สปก.สระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนันตำบลหนองย่างเสือ โดยจับ 2 ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1

ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ,เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และเป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ ในคดีใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุก หรือครอบครองที่ป่าไม้ ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ มีการตรวจสอบพบคาเฟ่หรูแห่งหนึ่งใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีการก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวของนายทุน จนกระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วน ใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนด้วยการออกเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4 – 01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง

โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกันกระทำผิดดังกล่าว มีด้วยกันทั้งหมด 6 คน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หลังพบหลักฐานว่าทั้งหมดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิ์ ให้กับนายทุนโดยมิชอบ มีการแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน อาทิ เซ็นใบรับรองสภาพพื้นที่เป็นเกษตรกรรมทั้งที่ยังเป็นป่า และ ออกรับรองคุณสมบัติผู้ขอโดยไม่ตรวจสอบความจริง การจัดส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบรังวัดพื้นที่ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 6 ราย จนนำมาสู่ปฏิบัติการบุกเข้าจับกุมดังกล่าว เบื้องต้นสามารถจับกุมตัวได้แล้วจำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายวิชยุตม์ นายช่างสำรวจชำนาญงาน สปก.สระบุรี นายสิปปกร กำนันตำบลหนองย่างเสือ และนายอรุณ อายุ 56 ปี ส่วนที่เหลืออีก 3 อยู่ระหว่างการติดตามตัว

พ.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่รังวัดตอบว่า มีอำนาจหน้าที่ในการรังวัด ตนเองจึงได้สอบถามต่อรู้หรือไม่ว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ป่า? แต่เจ้าหน้าที่รังวัดคนดังกล่าวไม่สามารถตอบคำถามได้ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้เหมือนเป็นการลักไก่ไปวัดพื้นที่ก่อน โดยมีผู้ใหญ่บ้านและกำนันในพื้นที่เป็นคนเซ็นรับรอง และนำไปออกเอกสารสิทธิ์ โดยไม่ได้มีการลงพื้นที่มาดูสภาพจริง

พ.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า ทางด้านของกำนันจะต้องเป็นคนมานำชี้ให้เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดิน เพราะอย่างนั้นเจ้าตัวจะต้องรู้มากที่สุดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่า ที่ไม่สามารถรุกล้ำได้ แต่กลับเซ็นเป็นพยานให้กับทางด้านของเจ้าหน้าที่ จึงทำให้มีความผิดมากที่สุด ยืนยันว่าตนเองไม่ได้กลั่นแกล้ง เชื่อว่าทั้งกำนันและผู้ใหญ่บ้านเป็นกลุ่มที่รู้เห็น และรับผลประโยชน์ด้วยกัน จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับในครั้งนี้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็น
กรุณาใส่ชื่อคุณ