ผู้ว่าเชียงรายสั่งห้ามคนขับรถส่งของออกนอกเขตด่านพรมแดน ให้เปลี่ยนคนขับไทยไปรับของแทน พร้อมทั้งเข้มงวดตรวจโรคแลดคัดกรอง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงคนขับไทยที่ต้องไปส่งสินค้าที่เมียนมาด้วย

วันที่ 16 ก.ย.63 ที่ด่านพรมแดน สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 แม่สาย – ท่าขี้เหล็ก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้มีมาตราการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไว้รัส โควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศเมียนมา โดยเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ทาง ประธานหอการค้าอำเภอแม่สายและหอการค้าอำเภอท่าขี้เหล็ก ผู้ประกอบการขนส่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดมาตรการขนส่งสินค้าตามช่องทางเข้า-ออกราชอาณาจักรในพื้นที่อำเภอแม่สาย ที่ ห้องปฏิบัติการนายอำเภอแม่สาย ที่ว่าการอำเภอแม่สาย  จ.เชียงราย เพื่อกำหนดมาตรการในการปฏิบัติ ให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคติดต่อ

โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด – 19โดยในที่ประชุมมีการกล่าวถึงการข้ามแดนของผ้ประกอบการขนส่งที่ต้องข้ามพรมแดนไปมาทั้ง ในส่วนของคนไทย และคนเมียนมาที่เป็นพนักงานขับรถ และผู้ติดตามรถ ที่ต้องเดินทางข้ามพรมแดนไปถึงสถานที่จัดเก็บสินค้าซึ่งอยู่นอกพื้นที่ด่านพรมแดน ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดและการควบคุมโรคของพนักงานขับรถ และผู้ติดตาม จนเป็นข้อถกเถียง

โดยทางฝ่ายไทยเสนให้มีการลำเลียงสินค้ามาส่งที่ด่านพรมแดนเท่านั้นไม้ให้ออกจากพื้นที่ด่านศุลกากร ซึ่งทางเมียนมาเองก็ได้ชี้แจงว่าหากเป็นเช่นนั้นทางเมียนมาก็ขอให้ทางฝ่ายไทยขนส่งสินค้าในบริเวณพื้นที่สะพานมิตรภาพแห่งที่ 2 เท่านั้นโดยไม่ให้ออกนอดพื้นที่เช่นกัน และหากตกลงกันไม่ได้ก็อาจจะต้องอาศัยข้อตกลง ทำให้นายซาน เมี่ย ซอ นายอำเภอท่าขี้เหล็ก ได้หยิบยกข้อตกลงระหว่างกระทรวงการต่างประเทศไทย-เมียนมา ที่ระบุว่าหากการหารือระหว่างประเทศตกลงกันไม่ได้ทางการเมียนมาก็อนุญาตให้ส่วนท้องถิ่นสามารถปิดด่านพรมแดนได้เลย ซึ่งกรณีนี้หากไม่สามารถใช้มาตรการเดียวกันเขาก็จะแจ้งให้มีการปิดด่านพรมแดนตรงสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 ฝั่งประเทศเมียนมาได้เลย ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงจะนำข้อหารือไปแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดของแต่ละฝ่ายเพื่อจะกลับไปหารือสำหรับหาข้อตกลงกันอีกครั้ง

โดยล่าสุดวันนี้ทาง นายประจญ  ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มีคำสั่งออกมา ณ วันที่ 15 กันยายน 2563 โดยมีเนื้อหา โดยอาศัยอำนาจตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548  (ฉบับที่ 12) ข้อ 1 ประกอบมาตรา 35 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยมีเนื้อหาว่า  โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงรายในการประชุม ครั้งที่ 3/2523 เมื่อวันที่ 18  มีนาคม 2563 จึงกำหนดให้ยานพาหนะประเภทรถสัญชาติเมียนมา สามารถเข้ามารับสินค้าภายในเขตอำเภอแม่สายได้ โดยความเห็นขอบของศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย)และให้ดำเนินการตามมาตรการ

คือให้ยานพาหนะประเภทรถตู้ สามารถเข้ามารับสินค้า ภายในเขตอำเภอแม่สาย ใน 5 วันจำกัดจำนวนไม่เกิน 168  คัน ตามที่เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 21 เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2563 โดยให้กำหนดช่วงเวลาและจำนวนยานพาหนะดังกล่าวให้เหมาะสมและสามารถควบคุมได้ อนุญาตให้ผู้ควบคุมยานพาหนะประเภทรถตู้และผู้ติดตามจำนวนไม่เกิน 1 คน ที่เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา สามารถควบคุมยานพาหนะมาถึงที่ด่านศุลกากรแม่สาย (สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2) เท่านั้น และให้ผลัดเปลี่ยนผู้ควบคุมยานพาหนะเป็นบุคคลสัญชาติไทยหรือเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมาแต่มีถิ่นที่อยู่และพำนักในประเทศไทย โดยมิได้เดินทางกลับประเทศเมียนมา เป็นผู้ควบคุมยานพาหนะแทนเพื่อขับยานพาหนะเข้ามารับสินค้าตามจุดจอดรับสินค้า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย(ศปก.อ.แม่สาย) กำหนด ในเขตอำเภอแม่สาย

จากนั้นให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำหนดจุดพักคอยให้กับผู้ควบคุมยานพาหนะและผู้ติดตาม ที่เป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา โดยกำหนดบริเวณให้อยู่ภายในพื้นที่ที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) กำหนดเท่านั้น และให้บุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยเคร่งครัด พร้อมทั้งกำหนดให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ติดตาม ตรวจสอบยานพาหนะทั้ง 168 คัน เพื่อควบคุมดูแลผู้ควบคุมยานพาหนะ นำพาหนะไปจอด ณ จุดจอดที่ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) กำหนดและให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของกระเควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยเคร่งครัด ให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) จัดทำบัตรประจำตัว

สำหรับบุคคลสัญชาติไทยหรือเป็นบุคคลสัญชาติเมียนมา แต่มีถิ่นที่อยู่และพำนักในประเทศไทย โดยมิได้เดินทางกลับประเทศเมียนมา ซึ่งควบคุมยานพาหนะขนส่งสินค้าเข้าไปยังจุดรับส่งสินค้าในเขตอำเภอแม่สายเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้  พร้อมทั้งให้ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอแม่สาย (ศปก.อ.แม่สาย) ร่วมกับสาธารณสุขอำเภอแม่สาย ดำเนินการตรวจคัดกรอง ทำความสะอาดโดยยาฆ่าเชื้อหรือเจลแอลกอฮอล์ สำหรับยานพาหนะที่เดินทางมาจากประเทศเมียนมา เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2554 ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สั่ง ณ วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563

สำหรับในส่วนพื้นที่ชายแดน ก็ได้มีการตรวจสอบลวดหนามและเครื่องป้องกันต่างๆ เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดน รวมไปถึงได้มีการลาดตระเวณของทหารจากร้อย ม.3 ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม. 2 กองกำลังผาเมือง นำโดย ร.อ.กิตติเดช กันคล้อย ผบ.ร้อย ม.3  เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามแดนอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งสามรารถสกัดและจับกุมผู้ที่ลักลอบข้ามแดนได้บ่อยครั้ง พร้อมทั้งส่งมอบให้กับทางตรวจคนเข้าเมืองเชียงราย ทำการผลักดันออกนอกประเทศทันทีโดยไม่มีการกักตัวไว้ในประเทศไทย

ภาพ/ข่าว ณัฐวัตร  ลาพิงค์/จ.เชียงราย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็น
กรุณาใส่ชื่อคุณ